วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557
สิ่งที่ควรรู้การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ
สิ่งที่ควรรู้การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ เป็นการปลูกผักไว้ทานเองในครอบครัว โดยไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงและวัชพืช ซึ่งในปัจจุบันนี้ผักที่วางขายตามท้องตลาดมีสารเคมีตกค้างค่อนข้างมาก ทำให้เป็นอันตรายต่อผู้
บริโภค การปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักปลูกพืชผักไว้บริโภคเองจะช่วยประหยัดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ในครอบครัวสอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวง
ปัจจุบันนี้สภาพปัญหาทางเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของผู้บริโภคอย่างมาก รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ผู้ปกครองไปรับจ้างต่างจังหวัดทิ้งลูกอยู่บ้านกับตายายรอรับเงินช่วงสิ้นเดือน ซึ่งเป็นที่มาทำให้เด็กไม่
รู้จักวิธีการทำงาน วิธีเพิ่มรายได้ในครอบครัว
กิจกรรมการปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษในโรงเรียนจะทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการปลูกการดูแลรักษาโดยไม่ใช้สารเคมี เป็นกิจกรรมที่นักศึกษาสามารถนำไปปฏิบัติที่บ้านได้
จังหวัดสุรินทร์ มีพื้นที่ที่เหมาะในการปลูกพืชผักได้ตลอดปี สภาพดินบริเวณแปลงเกษตรเป็นดินเหนียวเพราะนำดินที่ขุดจากสระมาถมพื้นที่แปลงเกษตร ได้ปรับปรุงแก้ไขโดยใส่แกลบสดแกลบเผา ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก สภาพ
ของดินดีขึ้น ในช่วงหน้าฝนปลุกข้าวโพด มะเขือ ถั่ว ปลายฤดูฝนปลูกพืชผักตามฤดูกาล นักเรียนที่ปฏิบัติการปลูก ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยแบ่งแปลงให้แต่ละชั้นรับผิดชอบ
ในการปฏิบัติการปลูกในช่วงฤดูฝนให้นักศึกษาชั้น ม. 1 - 3 ลงปฏิบัติ ส่วนชั้น ป. 5 - 6 ลงปฏิบัติช่วงปลายฤดูฝน ขณะลงปฏิบัติงานให้ครูประจำชั้นช่วยควบคุมดูแลโดยแบ่งให้รับผิดชอบแปลงละ 2 - 3 คน ปลูกผักหมุน
เวียนตลอดปีการศึกษา
กิจกรรมการปลูกสวนครัวปลอดสารพิษฝึกให้นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักช่วยเหลือเพื่อน มีความรู้ความเข้าใจวิธีการปลูกผักปลอดสารพิษ รู้จักใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่นให้เกิดคุณประโยชน์และสามารถ
นำไปปฏิบัติที่บ้านได้
การปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษทำให้ชีวิตปลอดภัยจากสารเคมี ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว นักศึกษาสามารถนำไปปฏิบัติที่บ้านเป็นแบบอย่างในท้องถิ่นได้
การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชผัก เพื่อให้ได้ผลผลิตพืชผักที่ปลอดภัยจากสารพิษ ควรใช้หลาย ๆ วิธี ผสมผสานกัน ทั้งวิธีกล การใช้สารชีวินทรีย์ สารธรรมชาติ และสารเคมีร่วมกันในการป้องกันกำจัดควบคู่กันไปกับการจัดการที่ดี
การเก็บเกี่ยวผลผลิต ควรเก็บในระยะที่มีอายุแก่เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของพืชผัก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณค่าทางอาหาร รสชาติ และประเภทรูปร่าง สีสัน ความสุกเหมาะสมและดีที่สุด เมื่อถึงมือผู้บริโภค การเก็บเกี่ยวควรทำด้วย
ความระมัดระวัง อย่าให้เกิดร้อยช้ำ รอยขีดข่วน เพื่อรักษาคุณภาพให้ดีที่สุด การสูญเสียของพืชผักหลังการเก็บเกี่ยวมีสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบเขตอากาศร้อนของประเทศไทย ผักกินใบเป็นผักที่เน่าเสียได้ง่าย โดยเฉพาะหาก
ในระหว่างเก็บเกี่ยวผักมีการ บอบช้ำ ฉีกขาด หรือเป็นแผลจากการเก็บเกี่ยว และการขนย้ายที่ไม่ดีทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ เข้าทำลายง่ายดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการสูญเสียของพืชผักควรต้องมีการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสมทั้ง
ก่อนการเก็บเกี่ยว และหลังการเก็บเกี่ยว
การรักษาคุณภาพผลผลิตพืชผักเบื้องต้นในแปลงหลังการเก็บเกี่ยวแล้ว ต้องรีบนำเข้าที่ร่ม อย่าให้ตากแดด แล้วรีบร้อนระบายความร้อนภายในผลผลิตลง โดยการแผ่ออก อย่าวางสุมทับซ้อนกัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น